ศูนย์โรคเอดส์ประจำภูมิภาคชูโงะคุและชิโกะคุ
สำหรับบุคคลทั่วไปและผู้ป่วย

ระบบสวัสดิการสังคม

การชำระค่าบริการทางการแพทย์และการช่วยเหลือบุคคลที่มีความพิการ (การฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์และการช่วยเหลือทางการแพทย์สำหรับเด็กที่มีความพิการแฝง)

การชำระค่าบริการทางการแพทย์และการช่วยเหลือบุคคลที่มีความพิการ หมายถึงอะไร

วันที่ 1 เดือนเมษายน พ.ศ. 2556 มีการแก้ไขรายละเอียดบางส่วนเกี่ยวกับบริการและการช่วยเหลือบุคคลที่มีความพิการภายใต้พระราชบัญญัติผู้พิการ และ “พระราชบัญญัติว่าด้วยการให้การช่วยเหลือแบบครอบคลุมแก่บุคคลที่มีความพิการ” มีผลบังคับใช้ ทั้งนี้ ชื่อที่เป็นทางการของพระราชบัญญัตินี้ คือ พระราชบัญญัติว่าด้วยการช่วยเหลือแบบครอบคลุมเพื่อการดำเนินชีวิตประจำวันในสังคมของบุคคลที่มีความพิการ และโดยพระราชบัญญัติใหม่นี้ บุคคลที่เป็นโรคที่รักษาได้ยาก และไม่มีสิทธิได้รับบัตรรับรองผู้พิการทางร่างกาย จะได้รับการเพิ่มชื่อเข้าในหมวด "บุคคลที่มีความพิการ" เพื่อเพิ่มทางเลือกในการใช้บริการสวัสดิการต่างๆ ได้มากขึ้น บัตรรับรองผู้พิการทางร่างกายนี้จะออกให้แก่บุคคลที่เข้าข่ายในหมวดหมู่ที่อธิบายไว้ในพระราชบัญญัติสวัสดิการผู้พิการทางร่างกาย ในฐานะที่เป็นสิ่งที่มีมาก่อนแล้วอดีต ส่วนระบบการดูแลทางการแพทย์ที่ได้รับการจัดหาทุนจากสาธารณะและกำหนดไว้โดยพระราชบัญญัติว่าด้วยบริการและการช่วยเหลือบุคคลที่มีความพิการยังคงสานต่อสิ่งที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติว่าด้วยการช่วยเหลือแบบครอบคลุมเพื่อการดำเนินชีวิตประจำวันในสังคมของบุคคลที่มีความพิการและอื่นๆ จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกที่ว่า "การชำระค่าบริการทางการแพทย์และการช่วยเหลือบุคคลที่มีความพิการ" ตลอดจนเนื้อหาแห่งข้อกำหนดนี้

การชำระค่าบริการทางการแพทย์และการช่วยเหลือบุคคลที่มีความพิการครอบคลุมส่วนของการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์อย่างไรบ้าง

บุคคลที่มีอายุมากกว่า 18 ปีและมีบัตรรับรองผู้พิการทางร่างกายสามารถยื่นขอการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ได้ ตามรายได้ของครอบครัว เพื่อการบรรเทา หรือป้องกันการลุกลามของอาการ ทั้งนี้ ท่านสามารถรับการช่วยเหลือนี้ได้จากเฉพาะหน่วยการแพทย์ที่กำหนดไว้โดยภาครัฐระดับจังหวัดและระดับเมืองหลักเท่านั้น นอกจากนี้ การติดเชื้อ HIV จะถูกจัดไว้ในหมวดของ "ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง" โดยที่บุคคลในกลุ่มนี้จะมีสิทธิเข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ ซึ่งรวมถึง การให้ยาต้านไวรัส และการรักษาการติดเชื้อฉวยโอกาส ทั้งนี้ ความคุ้มครองนี้จะไม่มีผลใช้กับการรักษาสภาวะต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเชื้อ HIV (เช่น ฟันผุ)

การชำระค่าบริการทางการแพทย์และการช่วยเหลือบุคคลที่มีความพิการครอบคลุมการช่วยเหลือทางการแพทย์สำหรับเด็กที่มีความพิการแฝงอย่างไร

บุคคลที่มีอายุมากกว่า 18 ปีและมีบัตรรับรองผู้พิการทางร่างกายหรือหากการไม่ได้รับการรักษาอาจหลงเหลือความพิการไว้ในอนาคต จะเป็นผู้มีสิทธิรับการช่วยเหลือด้านค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ ตามรายได้ของครอบครัว เพื่อรับการรักษาเยียวยาหรือบรรเทาความพิการดังกล่าว การช่วยเหลือนี้เป็นการช่วยเหลือด้าน การชำระค่าบริการทางการแพทย์และการช่วยเหลือบุคคลที่มีความพิการในแบบของเด็ก ซึ่งครอบคลุมการฟื้นฟูสมรรถภาพด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่จำเป็นต้องยื่นบัตรรับรองผู้พิการทางร่างกายแต่อย่างใด ท่านสามารถรับการช่วยเหลือนี้ได้จากเฉพาะหน่วยการแพทย์ที่กำหนดไว้โดยภาครัฐระดับจังหวัดและระดับเมืองหลักเท่านั้น

การติดเชื้อ HIV ถูกจัดเข้าไว้ในหมวด "ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องเนื่องจากเชื้อไวรัสที่ทำให้ภูมิคุ้มกันเกิดความบกพร่อง (เชื้อ HIV)" สำหรับหมวดอื่นๆ ที่ยกมาจากพระราชบัญญัติสวัสดิการเด็ก มีดังนี้ 1) ความบกพร่องของกระดูกและข้อ 2) ความบกพร่องทางสายตา 3) ความบกพร่องทางการได้ยินและการทรงตัว 4) ความผิดปกติในการเปล่งเสียง การพูด และการบดเคี้ยว 5) ความบกพร่องในการทำงานของหัวใจ 6) ความบกพร่องของไต 7) การทำหน้าที่อย่างผิดปกติของลำไส้เล็ก และ 8) ความผิดปกติเกี่ยวกับอวัยวะภายในอื่น

สามารถใช้สิทธิการชำระค่าบริการทางการแพทย์และการช่วยเหลือบุคคลที่มีความพิการได้ทุกที่หรือไม่

เฉพาะสถานที่ที่สามารถใช้ระบบนี้ได้เท่านั้น ซึ่งเป็นหน่วยการแพทย์และร้านขายยาที่กำหนดไว้โดยภาครัฐระดับจังหวัดและระดับเมืองหลักเท่านั้น ดังอธิบายไว้ในมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยบริการและการช่วยเหลือบุคคลที่มีความพิการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องเป็นหน่วยการแพทย์และร้านขายยาที่ปรากฎรายชื่อใน “หน่วยงานที่กำหนด” บนบัตรของผู้อ้างสิทธิ และนี่คือเหตุผลสำคัญในการต้องกำหนดหน่วยปฏิบัติการภายใต้โปรแกรมการชำระค่าบริการทางการแพทย์และการช่วยเหลือบุคคลที่มีความพิการ เมื่อจะยื่นขอการอนุมัติ

ระบบนี้มีการเปลี่ยนแปลงจากการฟื้นฟูสมรรถภาพที่มีก่อนหน้าและคู่สวัสดิการในเด็กอย่างไร

มีการเปลี่ยนแปลงหลัก 6 เรื่องดังนี้ 1) จำนวนครัวเรือนที่รับรู้ 2) การคำนวณค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ 3) การรวม "ภาวะอาการที่รุนแรงแต่ยังคงใช้ชีวิตได้" 4) การออกบัตรผู้อ้างสิทธิในการใช้สิทธิการชำระค่าบริการทางการแพทย์และการช่วยเหลือบุคคลที่มีความพิการ 5) การชำระค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ และ 6) การชำระค่าอาหารระหว่างการพักรักษาที่โรงพยาบาล

1. จำนวนครัวเรือนที่รับรู้
(ก่อนหน้า) การฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์และการช่วยเหลือทางการแพทย์สำหรับเด็กที่มีความพิการแฝง

สมาชิกในครอบครัวทุกคนที่อาศัยอยู่ในที่อยู่ที่ระบุไว้ในใบทะเบียนจะถูกนับเป็นหนึ่งครัวเรือน

(ปัจจุบัน) การชำระค่าบริการทางการแพทย์และการช่วยเหลือบุคคลที่มีความพิการ

สมาชิกแต่ละคนในครอบครัวที่ใช้ประกันการรักษาร่วมกันจะถูกนับเป็นหนึ่งครัวเรือน หรืออาจกล่าวได้ว่า สมาชิกในครอบครัวที่ถือกรมธรรม์ประกันแยกต่างหากจะถูกนับเป็นอีกครัวเรือนแยกออกไป

2. การคำนวณค่าใช้จ่ายทางการแพทย์
(ก่อนหน้า) การฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์และการช่วยเหลือทางการแพทย์สำหรับเด็กที่มีความพิการแฝง

โดยขึ้นกับรายได้ในครัวเรือนของปีก่อนหน้า วงเงินที่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายจะถูกกำหนดโดยสำนักงานภาครัฐระดับท้องถิ่น ส่วนยอดการชำระร่วมจะแตกต่างกันระหว่างผู้ป่วยนอกและการพักรักษาที่โรงพยาบาล

(ปัจจุบัน) การชำระค่าบริการทางการแพทย์และการช่วยเหลือบุคคลที่มีความพิการ

ยอดการชำระร่วมกำหนดไว้ที่ร้อยละ 10 ของใบเรียกเก็บค่ารักษารวม ยอดนี้ที่บุคคลจะจ่ายไป จะเท่ากันระหว่างผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน อย่างไรก็ตาม สำหรับครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำ วงเงินที่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่อเดือนกำหนดไว้ที่ 2,500 เยน หรือ 5,000 เยน ขึ้นกับรายได้ต่อปีของครัวเรือนนั้น ส่วนค่าเฉลี่ยสำหรับครอบครัวที่มีรายได้สูง ยอดการชำระร่วมจะต่ำกว่า สิทธิประโยชน์การรักษาพยาบาลที่มีค่าใช้จ่ายสูง หากความพิการขั้นรุนแรงนั้นไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษาในระยะยาว ("ภาวะอาการที่รุนแรงแต่ยังคงใช้ชีวิตได้") ในกรณีที่วงเงินดังกล่าวถูกลดลง ตามรายได้ครัวเรือน
*บุคคลที่ติดเชื้อ HIV จะถูกจัดไว้ในหมวด "ภาวะอาการที่รุนแรงแต่ยังคงใช้ชีวิตได้" และวงเงินที่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 5,000 เยน 10,000 เยน หรือ 20,000 เยน ขึ้นกับยอดต่อการจัดเก็บรายได้ในส่วนภาษีเทศบาลของปีก่อนหน้า

3. "ภาวะอาการที่รุนแรงแต่ยังคงใช้ชีวิตได้"

หมวดที่สามารถใช้สิทธิ "ภาวะอาการที่รุนแรงแต่ยังคงใช้ชีวิตได้" เป็นหมวดใหม่ที่เพิ่มเข้ามาและอยู่ภายใต้ข้อกำหนดการชำระค่าบริการทางการแพทย์และการช่วยเหลือบุคคลที่มีความพิการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการชำระค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ร่วมด้วย วัตถุประสงค์ของหมวดนี้ คือ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่บุคคลที่มีรายได้เฉลี่ยหรือมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า เมื่อโรคและอาการต่างๆ จำเป็นต้องรับการรักษาที่มีราคาแพงเป็นระยะเวลาที่ยาวนานออกไป โดยการกำหนดยอดชำระร่วมต่อเดือนขั้นสูงสุดไว้ตามรายได้ต่อครัวเรือนเป็นสำคัญ อีกทั้ง ภายในขอบเขตของการชำระค่าบริการทางการแพทย์และการช่วยเหลือบุคคลที่มีความพิการ (การฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์และการช่วยเหลือทางการแพทย์สำหรับเด็กที่มีความพิการ) ความผิดปกติที่ถูกจัดว่าเป็น “ภาวะอาการที่รุนแรงแต่ยังคงใช้ชีวิตได้" ประกอบด้วย ความบกพร่องของไต การทำหน้าที่อย่างผิดปกติของลำไส้เล็ก และภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ การช่วยเหลือนี้จะได้รับการพิจารณาแก่ผู้ป่วยที่มีภาระค่าใช้จ่ายสูงแบบต่อเนื่องและต้องรับการรักษาในหลายหมวดภายใต้กรมธรรม์ประกันที่มี โดยไม่ขึ้นกับประเภทของโรค

4. การออกบัตรผู้อ้างสิทธิในการใช้สิทธิการชำระค่าบริการทางการแพทย์และการช่วยเหลือบุคคลที่มีความพิการ
(ก่อนหน้า) การฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์และการช่วยเหลือทางการแพทย์สำหรับเด็กที่มีความพิการแฝง

สำนักงานให้คำปรึกษาเพื่อการฟื้นตัวของบุคคลที่มีความพิการทางร่างกายจะพิจารณาทบทวนคำขอการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์หรือการช่วยเหลือทางการแพทย์สำหรับเด็กที่มีความพิการ ภายหลังจากที่หน่วยงานท้องถิ่นที่กำกับดูแลได้กำหนดวงเงินรับผิดชอบค่าใช้จ่ายออกมาแล้ว จากนั้น จะมีการออกเป็น “ตั๋วฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์” ออกมาและส่งเป็นจดหมายไปยังหน่วยการแพทย์ตามรายชื่อที่กำหนดไว้ ผู้ป่วยจะไม่ได้รับการรับรองการเป็นผู้อ้างสิทธิไม่ว่าในรูปแบบใดก็ตาม

(ปัจจุบัน) การชำระค่าบริการทางการแพทย์และการช่วยเหลือบุคคลที่มีความพิการ

สำนักงานให้คำปรึกษาเพื่อการฟื้นตัวของบุคคลที่มีความพิการทางร่างกายจะพิจารณาทบทวนคำขอการชำระค่าบริการทางการแพทย์และการช่วยเหลือบุคคลที่มีความพิการ ภายหลังจากที่หน่วยงานท้องถิ่นที่กำกับดูแลได้กำหนดวงเงินรับผิดชอบค่าใช้จ่ายออกมาแล้ว จากนั้น จะออกบัตรผู้อ้างสิทธิในการใช้สิทธิการชำระค่าบริการทางการแพทย์และการช่วยเหลือบุคคลที่มีความพิการ พร้อมกับออก "แผนภูมิควบคุมยอดชำระร่วมขั้นสูงสุด" ให้บุคคลดังกล่าวด้วย (*กรุณาอ้างอิงหมายเหตุ) แต่ละหน่วยงานภาครัฐจะมีรูปแบบเอกสารเป็นของตนเอง
*แผนภูมิควบคุมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงให้เห็นถึงยอดชำระค่าใช้จ่ายแต่ละครั้ง ณ สถาบันการแพทย์ตามรายชื่อที่กำหนด เพื่อควบคุมยอดการชำระร่วมในแต่ละเดือน ไม่ให้เกินกว่าวงเงินสูงสุดนั้น

5. การชำระค่าใช้จ่ายทางการแพทย์
(ก่อนหน้า) การฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์และการช่วยเหลือทางการแพทย์สำหรับเด็กที่มีความพิการแฝง

หน่วยการแพทย์ตามรายชื่อที่กำหนดจะไม่ร้องขอให้ดำเนินขั้นตอนต่างๆ ที่ประชาสัมพันธ์

(ปัจจุบัน) การชำระค่าบริการทางการแพทย์และการช่วยเหลือบุคคลที่มีความพิการ

ให้ยื่น "บัตรผู้อ้างสิทธิในการใช้สิทธิการชำระค่าบริการทางการแพทย์และการช่วยเหลือบุคคลที่มีความพิการ" ของท่าน และ “แผนภูมิยอดชำระร่วมสูงสุด” ต่อสถาบันตามรายชื่อที่กำหนด หรือร้านขายยาตามระบุสำหรับใบสั่งยา ยอดชำระร่วมร้อยละ 10 จะถูกคำนวณออกมา และจะเรียกเก็บยังท่าน โดยไม่เกินกว่าวงเงินสูงสุดนั้นตามระบุในแผนภูมิของท่าน อีกทั้ง ภายหลังการชำระเงิน เจ้าหน้าที่จะใส่ยอดที่ระบุในแผนภูมิของท่านเข้าไป พร้อมกับวันที่และชื่อของสถาบันที่ท่านใช้บริการ ทั้งนี้ กรณีที่มีการชำระเงินหลายครั้งในรอบหนึ่งเดือน หากมีการระบุยอดสูงสุดไว้ในแผนภูมิของท่านแล้ว จะไม่มีการเรียกเก็บเพิ่มอีกต่อไป

6. การชำระค่าอาหารระหว่างการพักรักษาที่โรงพยาบาล
(ก่อนหน้า) การฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์และการช่วยเหลือทางการแพทย์สำหรับเด็กที่มีความพิการแฝง

ไม่มีการเรียกเก็บค่าอาหารระหว่างการพักรักษาที่โรงพยาบาล

(ปัจจุบัน) การชำระค่าบริการทางการแพทย์และการช่วยเหลือบุคคลที่มีความพิการ

ตามกฎระเบียบโดยทั่วไป มื้ออาหารของโรงพยาบาลทุกมื่อจะเรียกเก็บเต็มจำนวน

ข้าพเจ้าต้องทำประการใดบ้าง เมื่อจะขอรับการชำระค่าบริการทางการแพทย์และการช่วยเหลือบุคคลที่มีความพิการ (การฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์และการช่วยเหลือทางการแพทย์สำหรับเด็กที่มีความพิการแฝง)

ให้จัดเตรียมเอกสารต่างๆ ทั้งสิ้นที่จำเป็นต่อการยื่นเรื่องและให้ยื่นเอกสารดังกล่าวยังสำนักงานภาครัฐที่มีอำนาจพิจารณาตัดสินในเขตของท่าน ท่านสามารถขอรับแบบคำขอและเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับการยื่นเรื่องนี้ได้จากสำนักงานภาครัฐระดับท้องถิ่นของท่านและหน่วยการแพทย์ตามรายชื่อที่กำหนดไว้ นอกจากนี้ ระยะเวลาที่นานที่สุดในการรับสิทธินี้อยู่ที่ 1 ปี ดังนั้น ท่านจำเป็นต้องยื่นเรื่องขอต่ออายุการใช้สิทธินี้ทุกปี
ท่านสามารถยื่นเรื่องขอ "การชำระค่าบริการทางการแพทย์และการช่วยเหลือบุคคลที่มีความพิการ" ได้โดยวิธีการหนึ่งวิธีการใดดังต่อไปนี้
(1) ผู้ยื่นเรื่องเดินทางไปยังสำนักงานภาครัฐระดับท้องถิ่นที่รับผิดชอบ และยื่นเอกสารต่างๆ ด้วยตนเอง
(2) ผู้ยื่นเรื่องส่งเอกสารต่างๆ ไปยังสำนักงานภาครัฐระดับท้องถิ่นที่รับผิดชอบ โดยทางไปรษณีย์
(3) หรือโดยการมอบฉันทะให้สมาชิกในครอบครัว หรือเพื่อนของผู้ยื่นขอ หรือนักสังคมสงเคราะห์ได้จัดเตรียมและยื่นเอกสารต่างๆ ให้แทนผู้ยื่นเรื่องได้

เมื่อใดที่ข้าพเจ้าสามารถเริ่มใช้สิทธิการชำระค่าบริการทางการแพทย์และการช่วยเหลือบุคคลที่มีความพิการ (การฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์และการช่วยเหลือทางการแพทย์สำหรับเด็กที่มีความพิการแฝง) ได้

ท่านสามารถเริ่มใช้บัตรผู้อ้างสิทธิของท่านได้ตั้งแต่วันที่ออกบัตร กรณีของการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ การยื่นเรื่องขอรับสิทธิการชำระค่าบริการทางการแพทย์และการช่วยเหลือบุคคลที่มีความพิการ โดยทั่วไปจะตามมาภายหลังการยื่นขอมีบัตรรับรองผู้พิการทางร่างกาย ทั้งนี้ หากมีกรณีฉุกเฉิน ย่อมเป็นไปได้ที่จะดำเนินการยื่นเรื่องทั้งสองบัตรไปพร้อมกัน กรุณาสอบถามรายละเอียดต่างๆ จากหน่วยสวัสดิการรัฐหรือนักสังคมสงเคราะห์ทางการแพทย์ที่อยู่ใกล้ท่านที่สุด

ข้าพเจ้าสามารถใช้สิทธิการชำระค่าบริการทางการแพทย์และการช่วยเหลือบุคคลที่มีความพิการ ร่วมกับโปรแกรมการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายทางการแพทย์สำหรับบุคคลที่มีความพิการขั้นรุนแรง(สวัสดิการและบริการทางการแพทย์) ได้หรือไม่

แต่ละหน่วยงานภาครัฐต่างมีระบบของตนเองในด้าน สิทธิประโยชน์การรักษาพยาบาล (สวัสดิการ) สำหรับบุคคลที่มีความพิการขั้นรุนแรง กรุณาสอบถามรายละเอียดต่างๆ จากสำนักงานภาครัฐระดับท้องถิ่นในส่วนของนักสังคมสงเคราะห์ทางการแพทย์ของท่าน
ยกตัวอย่างเช่น กรณีของเมืองฮิโรชิม่า
ผู้ถือบัตรผู้อ้างสิทธิในการใช้สิทธิการชำระค่าบริการทางการแพทย์และการช่วยเหลือบุคคลที่มีความพิการ ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิประโยชน์การรักษาพยาบาล (สวัสดิการ) สำหรับบุคคลที่มีความพิการขั้นรุนแรง สามารถใช้ทั้งสองสิทธิได้ ดังนั้น ยอดชำระร่วมจึงได้ลดลงไปอีก

ระบบสวัสดิการสังคม

PageUP