กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการญี่ปุ่น (MHLW) ตระหนักดีว่า ผู้ติดเชื้อ HIV มักถูกแบ่งแยกจากสังคม ด้วยเหตุนี้ กระทรวงฯ จึงมุ่งเน้นเป็นพิเศษที่จะคุ้มครองความเป็นส่วนบุคคลของผู้ติดเชื้อ เมื่อเข้ารับบริการทางการแพทย์ (*กรุณาอ้างอิงหมายเหตุ)
ในการดำเนินระเบียบขั้นตอนต่างๆ เช่น การดำเนินการ ณ สำนักงานเทศบาล หรือในขั้นตอนการติดต่อประสาน และการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคล จำเป็นต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อการคุ้มครองความเป็นส่วนบุคคล

(*หมายเหตุ) อ้างอิง: "ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันอันเนื่องจากเชื้อไวรัสที่ทำลายระบบภูมิคุ้มกันของคน" คำแนะนำสำหรับผู้พิการ (ฉบับปรับปรุง) โดยกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการญี่ปุ่น เดือนธันวาคม พ.ศ. 2544

กฎหมายราชการพลเรือนแห่งชาติ (National Civil Service Law) และกฎหมายบริการสาธารณะระดับท้องถิ่น (Local Public Service Law) กำหนดไว้ว่า บุคคลที่ปฏิบัติงานในส่วนราชการ ไม่ขึ้นกับว่าเป็นเจ้าหน้าที่เต็มเวลา หรือไม่เต็มเวลาจะต้องไม่กระทำการใดอันเป็นเหตุให้ข้อมูลที่ได้รับมาอันเป็นผลจากงานที่ตนปฏิบัติอยู่นั้นรั่วไหลออกไป แม้หลังเกษียณอายุงานแล้วก็ตาม หน้าที่นี้บ่อยครั้งเรียกว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องรักษาความลับ บุคคลที่ปฏิบัติงานให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับส่วนราชการย่อมอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของยกฎหมายบริการสาธารณะระดับท้องถิ่นด้วยเช่นกัน
บุคคลที่ปฏิบัติงานให้แก่สถาบันทางการแพทย์จำต้องมีหน้าที่ในการรักษาความลับนี้ภายใต้กฎหมายการแพทย์ด้วย ส่วนกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการติดเชื้อและการดูแลทางการแพทย์แก่ผู้เชื้อติดเชื้อได้ระบุถึงบทลงโทษไว้ในมาตรา 73 และ 74 ด้วย ด้วยเหตุนี้ จำเป็นต้องวางระบบการคุ้มครองทางกฎหมายโดยสมบูรณ์ไว้ในทุกที่ที่มีข้อมูลความลับของผู้ติดเชื้ออยู่

สำหรับการรับรองความพิการทางร่างกายสำหรับบุคคลที่ติดเชื้อ HIV ได้มีการเน้นยำถึงมาตรการคุ้มครองความเป็นส่วนบุคคลอย่างละเอียดรอบคอบที่สุดเสมอ ผู้ปฏิบัติงานในส่วนราชการยิ่งต้องมีหน้าที่เพิ่มเติมในการแสดงออกถึงความพยายามในทุกทางที่จะคงไว้ซึ่งความเป็นส่วนบุคคล